นิสัยที่ควรทำทุกวัน เพื่อการพัฒนาตัวเองให้มี Creativity
หากคุณกำลังหาวิธีในการพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ฉลาดขึ้น เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตทั่วไปและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมีประสิทธิผลล่ะก็ ก่อนอื่นคุณต้องรู้ก่อนว่าคนที่จะพัฒนาตัวคุณได้ไม่มีใครอื่นนอกจากตัวคุณเอง โดยคุณต้องเริ่มมันอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการฝึกฝนที่ตั้งใจ มีความพยายาม เหนือสิ่งอื่นใด อย่ากดดันตัวเองด้วยเวลา เพราะการเปลี่ยนแปลงมักต้องอาศัยเวลาพอสมควร ส่วนในขั้นตอนปฏิบัตินั้น มีนิสัยดีๆ อยู่ 8 ข้อที่ทำง่ายๆ ได้ทุกวัน เพื่อพัฒนาตนเองเป็นคนที่มี Creativity
1. ใช้เวลาสักเล็กน้อยสำหรับการอ่าน
หลายคนรู้ดีว่าการอ่านหนังสือทำให้คนฉลาดขึ้นได้ รู้ว่าการอ่านหนังสือนั้นมีประโยชน์ คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาเป็นนักอ่าน ไม่เพียงแต่เนื้อหาในหนังสือเท่านั้นที่ทำให้คนฉลาดขึ้น แต่กระบวนการอ่านก็มีผลให้เราฉลาดขึ้นเช่นกัน เพราะในเวลาที่เราอ่านหนังสือ เราจะได้คิดทบทวน วิเคราะห์ และจดจ่ออยู่กับหน้าหนังสือเป็นเวลานาน เท่ากับคุณกำลังฝึกสมองให้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น โดยการสร้าง “นิสัยรักการอ่าน” ให้ตัวเองนั้นอยู่ที่ใจล้วน ๆ ลองฝึกดู เล่นโซเชียลมีเดียให้น้อยลงแล้วหันมาอ่านหนังสือกันเถอะ
2. ติดตามความคิดของตนเอง
อีกนิสัยหนึ่งที่ช่วยให้คุณฉลาดขึ้นได้ คือ การติดตามความคิดของตัวเองอยู่เสมอ นี่เป็นนิสัยที่พวกนักเขียนหรือคนที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำอยู่ตลอดเวลา เพราะไอเดียบรรเจิดสามารถมาหาคุณได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าคุณจะกำลังอาบน้ำ กินข้าว เล่นอินเทอร์เน็ต หรือช่วงเวลาอื่น ๆ หากคุณมีไอเดียแล่นไม่หยุดแตกต่างกัน 3 แบบ ให้จดบันทึกไว้ทันที อันที่จริง ไม่ใช่แค่ไอเดียเจ๋งๆ เท่านั้น อาจจะเป็นความคิดทุกอย่างที่แวบขึ้นมาในช่วงหนึ่ง เพราะบางทีเรื่องสัพเพเหระที่คุณคิดได้ในเวลานั้นๆ มันอาจจะกลายเป็นไอเดียสุดเจ๋งในภายหลังก็ได้
3. ทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ในแต่ละวัน
เมื่อชีวิตมีเรื่องให้จำมากมาย สมองของเรามักจะทำตรงกันข้าม คือไม่จำ! และเราก็มีแนวโน้มที่จะลืมสิ่งต่างๆ ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีก เมื่อมีความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นในหัว ข้อมูลที่เพิ่งได้เรียนรู้มาเมื่อครู่ก็จะหายไปอย่างง่ายดาย นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้คนลืมง่าย เพราะฉะนั้น มันจะไร้ประโยชน์มากเวลาที่คุณนั่งประชุม นั่งเรียน หรือนั่งอ่านอะไรทั้งวัน แต่สุดท้ายก็จำมันไม่ได้ แต่คุณสามารถเรียกความจำนั้นกลับมาได้ โดยการทบทวน ใช้เวลาอย่างน้อย 20 นาที เพื่อทบทวนสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ในทุกวัน ฝึกฝนให้เป็นนิสัย คนอื่นๆ จะมองว่าคุณฉลาด เมื่อคุณจำสิ่งต่างๆ ได้ทุกอย่าง
- จัดสรรเวลา 24 ชั่วโมงอย่างคุ้มค่าและชาญฉลาด
ในขณะที่เทคโนโลยีพยายามจะอำนวยความสะดวกในทุก ๆ ด้านให้กับคุณ แต่มันกลับทำให้สิ่งหนึ่งยากขึ้น คือ ความสามารถในการจัดการกับเวลา มีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้เวลาครึ่งค่อนวันหมดไปกับการท่องเว็บ ส่องโซเชียลมีเดีย หรือดูวิดีโอไปเรื่อยเปื่อย แบบที่ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่างก็หมดไปแล้ว 1 วัน ทั้ง ๆ ที่คุณก็รู้ตัวดีว่าควรจะทำอะไรอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์บ้าง แต่ห้ามตัวเองไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นลองมาใช้วิธีเหล่านี้เพื่อเลี่ยงหรือลดเวลาที่คุณเสียไปกับการเล่นโซเชียลมีเดียดู จะได้หันไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์บ้าง
- เขียนเป้าหมายประจำวันของคุณลงบนกระดาษ
- ทำตามแผนนั้น
- จัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ที่จะทำ
- เขียนรายการสิ่งที่ต้องทำทุกวัน ทำให้เป็นนิสัย ในตอนเช้าหรือก่อนเข้านอน
5. เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ
เมื่อคุณมีกิจกรรมบางอย่างที่ตั้งตารอ คุณจะใช้เวลาว่างได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น เช่น การลงคอร์สเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่คุณสนใจ (จริงๆ) คุณจะเริ่มรอเวลาอย่างใจจดจ่อว่าเมื่อไรจะถึงเวลาเรียน ระหว่างที่รอ คุณก็จะใช้เวลาว่างทบทวนสิ่งที่ได้เรียนมา ดังนั้น หากคุณยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ลองหันถามตัวเองว่าช่วงนี้คุณอยากจะเรียนรู้ทักษะอะไรใหม่ๆ บ้างหรือไม่ เช่น ภาษาใหม่ ดนตรี ถ่ายภาพ ทำอาหาร ฯลฯ จากนั้นลองหาคอร์สลงเรียน จะช่วยให้คุณได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ คุ้มค่า และได้ทักษะความรู้ใหม่ๆ ติดตัวมาให้ดูฉลาดขึ้นด้วย
6. ทำกิจกรรมให้หลากหลาย
เมื่อต้องทำอะไรที่ซ้ำซาก จำเจ วนอยู่แต่กับสิ่งเดิมๆ ทุกวัน เป็นใครก็เบื่อด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งความรู้สึกเบื่อหน่ายนี่ก็เป็นภัยต่อสมอง และเป็นภัยต่อสุขภาพจิตเช่นกัน มันทำให้คุณไม่สดชื่น หดหู่ เครียด อารมณ์ก็ไม่ดี หงุดหงิดง่ายจนไม่อยากจะสุงสิงกับใคร จนในที่สุดสมองของคุณจะทำงานช้าลง ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาต่อจากนี้ย่อมไม่ดีแน่ ดังนั้น ให้คุณหากิจกรรมใหม่ๆ ที่คุณไม่เคยทำมาทำดูบ้าง หรือจัดตารางชีวิตประจำวันของตัวเองให้ทำกิจกรรมให้หลากหลายขึ้น อย่าทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ เป็นเวลานาน ให้สมองของคุณได้ฟื้นจากความเบื่อหน่ายและกลับมาสดชื่นเหมือนเดิม
7. ทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และพยายามทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
คนส่วนใหญ่มักทำงานแค่ให้มันเสร็จ (เร็วที่สุดได้ยิ่งดี) แต่การทำงานของคุณจะง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกสิบเท่า ถ้าคุณรู้จักที่จะทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้น และพยายามทำความเข้าใจในตัวงานอย่างลึกซึ้ง ในแต่ละวัน เพียงแค่คุณรู้ว่าวันนี้ตัวเองมีปัญหาอะไรที่ตรงไหน หรือจุดอ่อน/ข้อด้อยของตัวเองคืออะไร การทำความรู้จักตัวเองให้มากขึ้นจะช่วยให้คุณหาวิธีรับมือกับปัญหา หรือมีวิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น อะไรที่ตัวเองไม่เก่ง ไม่ถนัดก็เสริมเข้าไป เมื่อคุณประสบปัญหาคล้ายๆ กันในครั้งต่อไป คุณจะรู้ทันทีว่าปัญหาอยู่ตรงไหนและจะต้องทำอย่างไรกับมัน
8. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเพียง 30 นาทีต่อวัน ไม่เพียงแค่ทำให้สุขภาพของคุณ (และรูปร่าง) ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้คุณฉลาดขึ้นด้วย เพราะช่วงเวลาครึ่งชั่วโมงที่คุณใช้ออกกำลังกาย จะช่วยปรับปรุงหลอดเลือดของคุณให้ดีขึ้น ส่งผลให้เลือดและออกซิเจนสามารถลำเลียงไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ที่สำคัญ ระหว่างที่คุณออกกำลังกาย เป็นช่วงที่คุณได้ใช้สติและสมาธิอยู่กับตัวเองเกือบตลอดเวลา ในการควบคุมการหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจ ก็ช่วยพัฒนาคุณภาพของสติปัญญาได้อีกทางหนึ่ง ยิ่งคุณเริ่มต้นวันด้วยการใช้พลังงานมากเท่าไร คุณก็จะได้ประสิทธิผลมากขึ้นเท่านั้น
.
.
ติดตาม Life Elevated ได้ที่
Website: www.lifeelevated.club/
Facebook: Life Elevated ชีวิตยกระดับ
Twitter: @lifeelevatedCLB
Instagram: @lifeelevatedclub
Line OA: @lifeelevatedclub
Blockdit: Lifeelevatedclub
Youtube: Life Elevated Club
