Home Technology นโยบาย Green Port ท่าเรือจีนกับเทคโนโลยีที่น่าสนใจ โลจิสติกส์ไทยประยุกต์ใช้เป็นประโยชน์

นโยบาย Green Port ท่าเรือจีนกับเทคโนโลยีที่น่าสนใจ โลจิสติกส์ไทยประยุกต์ใช้เป็นประโยชน์

by Lifeelevated Admin1

ปัจจุบันที่ผู้บริโภคเองมีจิตสำนึกในการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ในการส่งผลให้แนวคิดเรื่องความรับผิดชอบต่อต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขยายไปในวงกว้างกับกลุ่มธุรกิจทั่วโลก ทั้งยังเป็นแรงผลักดันและกระตุ้นให้กับหลายองค์กรใส่ใจถึงเรื่องนี้ และได้ถูกนำมาใช้มากขึ้นในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโลจิสติกส์

เช่นเดียวกับประเทศจีนในขณะนี้ที่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่อง ‘เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม’ เพื่อให้สอดคล้องกับการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ โดยมี 2 แนวทางคือ การดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมา โดยการชดเชยคาร์บอนเครดิต (Carbon Offsets) และการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ตั้งแต่ต้น ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับแนวทางแรก โดยในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์นั้น ต้องหยุดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล แล้วเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบพลังงานหมุนเวียน 100%

โดยเรื่องนี้รัฐบาลท้องถิ่นของประเทศจีนได้ตอบสนองนโยบายจากส่วนกลางเพื่อก้าวผ่านสู่ ‘เศรษฐกิจและสังคมสีเขียว’ โดยเฉพาะการจำกัดและกำจัดอุตสาหกรรมที่สิ้นเปลืองพลังงานและสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และการยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมและการบริการให้มีความยั่งยืน ซึ่งรวมถึงภาคการขนส่งและโลจิสติกส์นี้ด้วย

กรณีนี้ ‘ท่าเรือฝางเฉิงก่าง’ ของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้ประกอบการค้าผลไม้ และเป็นเมืองเดียวของจีนที่มีพรมแดนทางบกและทางทะเลติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ประตูแห่งภาคตะวันตกเฉียงใต้’ ได้เริ่มใช้งาน ‘สถานีเปลี่ยนแบตเตอรีสำหรับรถบรรทุก’ เป็นแห่งแรกในกลุ่มท่าเรือรอบอ่าวเป่ยปู้กว่างซี (อ่าวตังเกี๋ย) โดยมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (EV Truck) อีกจำนวน 10 คัน ซึ่งจะใช้ในการปฏิบัติงานภายในเขตท่าเรือฝางเฉิงก่าง เป็นการขานรับนโยบาย ‘เศรษฐกิจและสังคมสีเขียว’ ของประเทศจีน

 

นำร่องสู่การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ตั้งแต่ต้น

สำหรับ ‘สถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่’ เป็นโครงการนำร่องสู่การปรับเปลี่ยนรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันไปใช้รถบรรทุกที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า โดยสถานีเปลี่ยนแบตเตอรีดังกล่าวมีเนื้อที่ 300 ตารางเมตร ตัวโครงสร้างของสถานีประกอบขึ้นจากตู้คอนเทนเนอร์ 5 ตู้ ด้วยการประกอบติดตั้งและทดสอบการใช้งานใช้เวลาเพียง 3 วัน

โดยระบบการทำงานใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะที่มีความล้ำสมัยในการเปลี่ยนแบตเตอรี อาทิ ชุดอุปกรณ์ยกแบตเตอรี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ด้วยพลังแม่เหล็กที่มีความต้านทานแรงลมและการโยกไหวได้เป็นที่แรกของประเทศจีน รวมถึงระบบวัดระยะห่างด้วยเรดาร์ ระบบระบุตำแหน่งด้วย AI Vision และเทคโนโลยี 5G ซึ่งสามารถทำงานด้วยความแม่นยำโดยไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุม

ส่วนขั้นตอนและกระบวนการเปลี่ยนแบตเตอรีรถบรรทุกนั้นจะใช้เวลาเพียง 5 นาที ถือเป็นการก้าวข้ามข้อจำกัดแบบเดิมของรถ EV ที่ไม่ต้องจอดรถเพื่อรอชาร์จแบตเตอรีเป็นเวลานาน 3 – 6 ชั่วโมง เพราะชุดแบตเตอรี่ที่ใช้จะเป็นแบตเตอรีลิเธียมไอออนฟอสเฟส หรือ LiFePO4 มีแรงขับเคลื่อน 141 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 10-12 ชั่วโมง โดยชุดอุปกรณ์นี้สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ 144 ครั้งต่อวัน ช่วยตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของรถบรรทุกในท่าเรือได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รถบรรทุกระบบไฟฟ้า 10 คัน ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันดีเซลได้ปีละ 2 แสนลิตร และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ปีละ 480 ตัน อีกทั้งยังเป็นการขานรับนโยบายประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อขับเคลื่อนท่าเรือแห่งนี้สู่ Green Port และ Smart Port อย่างมีประสิทธิภาพ

 

จีนเร่งใช้รถบรรทุกไฟฟ้าในท่าเรือ

นอกจาก ท่าเรือฝางเฉิงก่าง ได้พัฒนาสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยลดต้นทุนแรงงานบริเวณหน้างาน และช่วยให้กิจกรรมการผลิตในท่าเทียบเรือมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นยังมีท่าเรืออื่นๆ ตระหนักถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือเที่ยซานในเมืองเป๋ยไห่ ที่ได้ทดสอบประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของรถบรรทุกไร้คนขับ ร่วมกับรถบรรทุกที่มีอยู่เดิมภายในท่าเทียบเรือ

รวมทั้ง ท่าเรือชินโจว ซึ่งเป็นท่าเรือหลักของกลุ่มท่าเรือรอบอ่าวเป่ยปู้ ได้ใช้งานท่าเทียบเรืออัจฉริยะแห่งที่ 5 ของประเทศจีน ด้วยการพัฒนาระบบเครนยกตู้สินค้าและรถขนถ่ายตู้สินค้า (shutter truck) ให้ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ ตลอดจนการพัฒนาโมเดลการขนส่ง ‘เรือ+ราง’ แบบไร้รอยต่อในบริเวณท่าเรือ ช่วยให้การขนส่งกระจายสินค้าทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ครอบคลุมไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศจีน

 

ท่าเทียบเรือไทย กับการใช้รถบรรทุกไร้คนขับครั้งแรก

สำหรับประเทศไทย เมื่อไม่นานมานี้ได้มีผู้ประกอบการท่าเทียบเรือชั้นนำ เปิดตัวรถบรรทุกหัวลากไร้คนขับ เพื่อนำมาปฏิบัติงานภายในท่าเทียบเรือ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เป็นแห่งแรกในประเทศ นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับวงการขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศด้วยเทคโนโลยีรถบรรทุกไร้คนขับที่เรียกว่า ‘Qomolo’ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการปฏิบัติงานที่ท่าเทียบเรือแห่งนั้นได้เป็นอย่างดี

โดยรถบรรทุกไร้คนขับนี้ ได้โชว์ศักยภาพในการปฏิบัติงาน ร่วมกับรถบรรทุกที่มีอยู่ในปัจจุบันสำหรับการขนส่งตู้สินค้าระหว่างหน้าท่าและลานตู้สินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยี AI ขั้นสูง และระบบการชาร์จพลังงานแบบไร้สาย ส่งผลให้สามารถปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องหลายชั่วโมง ประกอบกับ การติดตั้งเซ็นเซอร์ที่วัดระยะห่างด้วยแสงเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพในการตรวจจับและสำรวจสภาพแวดล้อมทุกทิศทางได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำด้วยการสร้างแผนที่แบบ 3 มิติ ทำให้สามารถวิเคราะห์และประเมินสภาพการจราจรเพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคและการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ การปฏิบัติงานของรถบรรทุกไร้คนขับภายในท่าเทียบเรือดังกล่าว ได้ถูกควบคุมด้วยระบบปฏิบัติการสำหรับท่าเทียบเรือแบบครบวงจร ซึ่งบริษัทนี้ได้ทำการพัฒนาขึ้นเองเพื่อบูรณาการในการทำงานร่วมกับนวัตกรรมและระบบอื่นๆ ภายในท่าเทียบเรือ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีควบคุมระบบปฏิบัติงานจากระยะไกลเพื่อวางแผนเส้นทางวิ่งของรถ ตลอดจนระบบนัดหมายรถเข้าท่าเทียบเรือและลานจอดรถ เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดในการปฏิบัติงาน

 

จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศจีนและประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการขนส่งและโลจิสติกส์เพื่อการใช้งานในท่าเรือ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น หากผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยปรับแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับกรณีตัวอย่างที่กล่าวมา ก็จะช่วยด้านการบริหารต้นทุนด้านการใช้พลังงานเชื้อเพลิงในระยะยาวได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ไม่น้อย ซึ่งสอดรับกับมาตรการกีดกันทางการค้าด้านประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ตลาดโลกให้ความสำคัญอยู่ในขณะนี้

.

.

ติดตาม Life Elevated ได้ที่

Website: www.lifeelevated.club/

Facebook: Life Elevated ชีวิตยกระดับ

Twitter: @lifeelevatedCLB

Instagram: @lifeelevatedclub

Line OA: @lifeelevatedclub

Blockdit: Lifeelevatedclub

Youtube: Life Elevated Club

.

.

#LifeElevated #เทคโนโลยี #นโยบาย #GreenPort #ท่าเรือจีน #โลจิสติกส์ไทย

.

.

อ้างอิง : ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทยในจีน

https://www.ryt9.com/s/prg/3119816

Related Articles

Leave a Comment