Home Society “องค์กร” ได้ประโยชน์ เมื่อพนักงานอยู่ในโหมด Work From Home

“องค์กร” ได้ประโยชน์ เมื่อพนักงานอยู่ในโหมด Work From Home

by Lifeelevated Admin1

การทำงานที่บ้าน

เป็นหนึ่งในมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ เนื่องจากเป็นการจำกัดการติดต่อและการสัมผัสระหว่างคน ช่วยลดอัตราการแพร่เชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ยังไม่มีวัคซีนและยารักษาโรค อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามว่า การทำงานที่บ้านจะมีผลกระทบอย่างไรต่อทั้งองค์กรและพนักงาน        ?

แม้ว่ามีบางส่วนที่มองว่าการปล่อยให้พนักงานทำงานอยู่ที่บ้าน อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานได้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า มีรายงานจากผลการศึกษาหลายชิ้นชี้ให้เห็นถึงข้อดีของการ Work From Home โดยเว็บไซต์การเงินชื่อดังอย่าง Forbes ได้รวบรวมข้อมูลการวิจัยเกี่ยวกับหัวข้อ “การทำงานทางไกล” (Telework) หรือการทำงานที่บ้าน จากองค์กรชั้นนำหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทจัดทำโพลชื่อดัง Gallup, องค์กรที่ปรึกษาด้านการวิจัย Global Workplace Analytics รวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำ Harvard University และ Stanford University ด้วย

จากข้อมูลดังกล่าวได้รับการพิสูจน์ออกมาเป็นตัวเลขแล้วว่า การที่องค์กรหรือบริษัทใดมีการทำงานที่ยืดหยุ่นให้กับพนักงาน (ในกรณีนี้หมายถึงการอนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือทำงานนอกสถานที่ได้) จะส่งผลดีต่อบริษัท ดังนี้

  1. ประสิทธิภาพในการทำงาน

พนักงานที่ได้ Work From Home หรือทำงานนอกสถานที่ จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าพนักงานที่ทำงานอยู่ในออฟฟิศ โดยเฉลี่ยมากกว่า 35-40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว และยังพบว่าสามารถเพิ่มผลผลิตในการทำงานได้จากเดิมอย่างน้อย 4.4 เปอร์เซ็นต์

  1. คุณภาพในการทำงาน

เมื่อพนักงานไม่จำเป็นต้องเดินทางมาทำงานที่ออฟฟิศ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ทำงาน พบว่าความยืดหยุ่นดังกล่าวส่งผลให้พวกเขาทำผลงานได้ดียิ่งขึ้น โดยพบว่ามีความผิดพลาดจากคุณภาพในการทำงานลดน้อยลง 40 เปอร์เซ็นต์

  1. การมีส่วนร่วมในการทำงาน

การให้พนักงานได้ทำงานอยู่ที่บ้าน ส่งผลในเชิงบวกทั้งผลผลิตในการทำงานคือได้งานในปริมาณที่มากขึ้น และประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น นั่นหมายความว่าการมีส่วนร่วมในการทำงานของพนักงานก็จะมากขึ้นตามไปด้วย รวมถึงส่งผลให้การขอลางาน หรือขอลาหยุดลดน้อยลงจากเดิม 41 เปอร์เซ็นต์

  1. การรักษาพนักงานไว้กับองค์กร

มีพนักงานถึง 54 เปอร์เซ็นต์ที่ระบุว่าพวกเขาคิดจะเปลี่ยนงานหรือหางานใหม่ที่มีความยืดหยุ่นในการทำงาน แต่การที่บริษัทอนุญาตให้ทำงานที่บ้าน หรือทำงานนอกสถานที่ได้ ส่งผลให้อัตราการลาออกของพนักงานบริษัทลดน้อยลงถึง 12 เปอร์เซ็นต์

  1. ความสามารถในการทำผลกำไร

จากการที่บริษัทให้พนักงานทำงานอยู่ที่บ้าน หรือทำงานนอกสถานที่ได้ ส่งผลดีต่อองค์กรในเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยเช่นกัน เมื่อพบว่าสามารถประหยัดรายจ่ายในออฟฟิศลงได้เฉลี่ยปีละ 11,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 330,000 บาท) หรือสามารถทำผลกำไรได้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 21 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

ทดลอง “แผนการทำงานจากบ้าน” ที่อาจเกิดขึ้นจริงจังเร็วๆ นี้

มหกรรมการทดลองทำงานจากที่บ้านครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีในการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต เมื่อระบบอัตโนมัติได้เข้ามาเพิ่มบทบาทให้กับบุคลากรทักษะสูงและความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่เรียกร้องให้องค์กรมีตัวเลือกต่างๆ ที่เอื้อต่อการทำงานจากที่บ้าน

ข้อมูลจากงานวิจัย Gartner บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาจากสหรัฐอเมริกา

ระบุว่า ภายในปี 2573 ความต้องการทำงานจากที่บ้านจะเพิ่มขึ้น 30% เนื่องจากกลุ่มคน Generation Z กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างเต็มตัว

64% ของคนทำงานในปัจจุบันกล่าวว่าพวกเขาสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ (โดย 71% ขององค์กรทั่วโลกมีนโยบายการทำงานจากที่บ้านเป็นเรื่องปกติ)

การทำงานจากบ้านเป็นสิ่งดึงดูดความสนใจของพนักงานที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้น เพราะช่วยลดเวลาเดินทางสำหรับผู้ที่มีภาระทางครอบครัว เกือบสองเท่าของพนักงานกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะทำงานจากบ้านบ้างในบางครั้ง เหมือนกับพนักงานที่ไม่มีภาระทางด้านนี้และกลุ่มพนักงานที่มีภาระดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวก็มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการการทำงานที่มีความยืดหยุ่นเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

แต่ที่น่าสังเกตคือในขณะที่การทำงานจากบ้านกำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นในกลุ่มพนักงานโดยมีเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เป็นไปได้นั้น องค์กรส่วนใหญ่ (93%) กลับมอบให้ผู้บริหารเป็นคนตัดสินใจว่าใครสามารถและไม่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดความเชื่อมั่น โดยมีผู้บริหาร 56% เท่านั้นที่อนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน แม้ว่านโยบายจะเอื้อให้แล้วก็ตาม

ความจำเป็นของการทำงานจากที่บ้านเพื่อทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้นี้เป็นการส่งสัญญาณไปยังทุกองค์กรว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องหวนกลับมาทบทวนนโยบายการทำงานนอกสถานที่และปรับใช้รูปแบบการทำงานใหม่ๆ นี้ ให้เหมือนการทำงานในสถานการณ์ปกติ

.

.

ติดตาม Life Elevated ได้ที่

Website: www.lifeelevated.club/

Facebook: Life Elevated ชีวิตยกระดับ

Twitter: @_lifeelevated_

Instagram: @lifeelevatedclub

Line OA: @Lifeelevated

Blockdit: Life Elevated

.

.

#LifeElevated #WorkFromHome #SocialDistancing #ระยะห่างทางสังคม

.

.

อ้างอิง

https://bit.ly/2L2Oeq9

https://bit.ly/3iZ2PzD

https://bit.ly/3iZz7KG

https://bit.ly/3t9Ntg5

https://bit.ly/3iYDkhQ

https://bit.ly/3otmA3r

https://bit.ly/3t9NG2R

https://bit.ly/39tnxEt

https://bit.ly/36tCm8i

Related Articles

Leave a Comment