Home Body เทคนิคน่ารู้! “กินทุเรียน” อย่างไร? ไม่กลัวอ้วน

เทคนิคน่ารู้! “กินทุเรียน” อย่างไร? ไม่กลัวอ้วน

by Lifeelevated Admin1

เข้าสู่หน้าทุเรียนทีไร สาวกคนรักราชาผลไม้เป็นต้องน้ำลายสอกับกลิ่นหอม ๆ ของทุเรียน แต่พอนึกถึงตัวเลขแคลอรีในทุเรียนแล้ว ทำเอาหลายคนต้องแตะเบรก ห้ามใจตัวเองแทบไม่ทัน เพราะถ้าเผลอกินราชาผลไม้ไทยชนิดนี้มากเกินไปละก็ ได้ความอ้วนแถมกลับมาด้วยชัวร์ๆ

เอ้า…แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะถ้าเรากินอย่างระมัดระวัง นอกจากจะได้ฟินกับรสชาติของทุเรียนแบบไม่กลัวอ้วนแล้ว ยังได้สุขภาพดีมาด้วยนะ ตามมาเลย

 

ทุเรียน ราชาแห่งผลไม้กับประโยชน์ไม่ธรรมดา

เราอาจไม่เคยรู้ประโยชน์ของทุเรียนเลย เพราะกลัวแต่ว่ากินแล้วจะอ้วน แต่จริง ๆ แล้ว ทุเรียนมีประโยชน์ไม่ใช่น้อยนะคะ โดยเป็นผลไม้ที่มีเบต้า-แคโรทีนสูง จึงช่วยเรื่องบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก ชะลอการเสื่อมของกระจกในผู้สูงอายุได้ และสารนี้ก็ยังช่วยบำรุงผิวพรรณได้ด้วย ขณะเดียวกัน ทุเรียนก็มีเส้นใยอาหารสูง คือ ประมาณ 3-5% (แล้วแต่สายพันธุ์) กากใยในเนื้อจึงเป็นยาระบาย ช่วยขับล้างลำไส้

นอกจากนี้ ทุเรียนยังมีประโยชน์ในด้านการฆ่าเชื้อ เพราะกำมะถันในเนื้อทุเรียนเปรียบเสมือนยาปฏิชีวนะอ่อน ๆ แก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝี-หนองแห้ง มีฤทธิ์ขับพยาธิ เปลือกลูกที่มีรสฝาดเฝื่อน ยังช่วยสมานแผล แก้น้ำเหลืองเสีย พุพอง แก้ฝี ตาน ซาง คุมธาตุ แก้คางทูม

 

กินทุเรียนแค่ไหนไม่อ้วน ไม่ทำร้ายสุขภาพ

อย่างที่ทราบกันดีว่า ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันไม่ใช่น้อย ๆ ถ้าเผลอกินไม่ยั้ง มั่นใจได้ว่าความอ้วนมาเยือนแน่นอน เราจึงย้ำให้กินทุเรียนอย่างเหมาะสมด้วยค่ะ โดยข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ทุเรียน 1 เม็ดขนาดกลาง (40 กรัม) ให้น้ำตาล 18 กรัม ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี เทียบได้กับข้าวสวยเกือบทัพพี (ข้าว 1 ทัพพี = 80 กิโลแคลอรี) ดังนั้น หากกินครั้งละ 3 เม็ด จะรับพลังงานไปถึง 180 กิโลแคลอรี หรือกินข้าว 2 ทัพพีกว่า ๆ เลย แต่ถ้าเผลอกินครั้งละ 4-6 เม็ด ก็รับพลังงานไปเกือบ ๆ 400 กิโลแคลอรี เทียบเท่ากับดื่มน้ำอัดลม 2 กระป๋อง หรือกินข้าวถึง 5 ทัพพี !

 

เพราะฉะนั้น ในคนสุขภาพปกติทั่วไป จึงไม่ควรกินทุเรียนเกิน 2 เม็ดต่อวัน และไม่ควรกินบ่อย ๆ หรือกินทุกวัน เพราะจะทำให้เจ็บคอ ร้อนใน ที่สำคัญคือ ทุเรียนมีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง กินมากไปยังทำให้อ้วนได้ด้วย

แต่สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวต้องระมัดระวังการกินทุเรียนให้มาก โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไต ควรเลี่ยงการกินทุเรียน เพราะทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไตจะไม่สามารถขับโพแทสเซียมส่วนเกินได้เท่าคนปกติ อาจส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้

นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหลอดเลือดหัวใจตีบ ก็ควรระวัง เพราะทุเรียนมีแป้งและไขมันสูง หากกินมากไป อาการอาจจะทรุดได้ แนะนำให้กินไม่เกิน 1 เม็ดเล็กต่อวัน และไม่ควรกินต่อเนื่องทุกวัน

 

กินทุเรียนแค่ไหนไม่อ้วน ไม่ทำร้ายสุขภาพ

อย่างที่ทราบกันดีว่า ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันไม่ใช่น้อย ๆ ถ้าเผลอกินไม่ยั้ง มั่นใจได้ว่าความอ้วนมาเยือนแน่นอน เราจึงย้ำให้กินทุเรียนอย่างเหมาะสมด้วยค่ะ โดยข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ทุเรียน 1 เม็ดขนาดกลาง (40 กรัม) ให้น้ำตาล 18 กรัม ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี เทียบได้กับข้าวสวยเกือบทัพพี (ข้าว 1 ทัพพี = 80 กิโลแคลอรี) ดังนั้น หากกินครั้งละ 3 เม็ด จะรับพลังงานไปถึง 180 กิโลแคลอรี หรือกินข้าว 2 ทัพพีกว่า ๆ เลย แต่ถ้าเผลอกินครั้งละ 4-6 เม็ด ก็รับพลังงานไปเกือบ ๆ 400 กิโลแคลอรี เทียบเท่ากับดื่มน้ำอัดลม 2 กระป๋อง หรือกินข้าวถึง 5 ทัพพี !

เพราะฉะนั้น ในคนสุขภาพปกติทั่วไป จึงไม่ควรกินทุเรียนเกิน 2 เม็ดต่อวัน และไม่ควรกินบ่อย ๆ หรือกินทุกวัน เพราะจะทำให้เจ็บคอ ร้อนใน ที่สำคัญคือ ทุเรียนมีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง กินมากไปยังทำให้อ้วนได้ด้วย

แต่สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวต้องระมัดระวังการกินทุเรียนให้มาก โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไต ควรเลี่ยงการกินทุเรียน เพราะทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไตจะไม่สามารถขับโพแทสเซียมส่วนเกินได้เท่าคนปกติ อาจส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้

นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหลอดเลือดหัวใจตีบ ก็ควรระวัง เพราะทุเรียนมีแป้งและไขมันสูง หากกินมากไป อาการอาจจะทรุดได้ แนะนำให้กินไม่เกิน 1 เม็ดเล็กต่อวัน และไม่ควรกินต่อเนื่องทุกวัน

ทุเรียนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันตราย!

ข้อสำคัญที่คนชอบกินทุเรียนต้องทราบก็คือ ห้ามกินทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด เพราะทุเรียนมีสารกำมะถันอยู่มาก ซึ่งเป็นสารที่ละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ สารนี้จะเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว ทำให้เมาเร็ว ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบหายใจ เกิดอาการร้อนในได้ และทำให้ร่างกายเกิดความร้อนสูงมากกว่าปกติ ผลที่เกิดตามมาคือการย่อยสลายทุเรียนและแอลกอฮอล์จะให้ความร้อนและเป็นกลไกที่ต้องใช้น้ำ เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการขาดน้ำ นอกจากนี้ ยังมีผลทำให้เอนไซม์ตัวสำคัญลดลง ส่งผลให้สารแอลดีไฮด์เกิดการสะสมในร่างกาย และทำให้เกิดอาการหน้าแดง ชา วิงเวียน และอาเจียนด้วย

 

และอย่างที่ทราบว่าทุเรียนมีกำมะถันสูง กินเข้าไปทำให้ร้อนในได้ เลยมีวิธีแก้ร้อนในจากทุเรียนมาฝากคนชอบกินกันด้วย ตามนี้เลย

– กินอาหารธาตุเย็นลงไปเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย เช่น อาหารที่มีรสจืด เปรี้ยว และขม หรือผัก-ผลไม้ที่มีน้ำมาก น้ำตาลต่ำ เช่น มะระ สะเดา แตงโม บวบ รากบัว มะนาว ส้ม มังคุด เป็นต้น

– ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ หรือดื่มน้ำผสมเกลือครึ่งช้อนชาดื่มสักแก้ว เพื่อขับสารซัลเฟอร์และช่วยลดอาการร้อนในได้

– กินผักสดให้มากขึ้น

– กินผลไม้ที่มีน้ำเยอะ เช่น แตงโม แตงล้าน หรือผลไม้รสเปรี้ยวหรือหวานอมเปรี้ยว เช่น ส้ม สับปะรด มะนาวให้มากขึ้น

– ดื่มน้ำสมุนไพรที่มีฤทธิ์ช่วยแก้ร้อนใน เช่น น้ำเก๊กฮวย น้ำหล่อฮังก๊วย น้ำรากบัว น้ำมะนาว น้ำใบบัวบก น้ำใบเตย เฉาก๊วย

ถ้ารู้จักกินทุเรียนแบบพอหอมปากหอมคอให้หายอยาก ก็ไม่ต้องกลัวว่าราชาผลไม้จะทำให้เราอ้วนได้แล้ว

.

.

ติดตาม Life Elevated ได้ที่

Website: www.lifeelevated.club/

Facebook: Life Elevated ชีวิตยกระดับ

Twitter: @_lifeelevated_

Instagram: @lifeelevatedclub

Line OA: @Lifeelevated

Blockdit: Life Elevated

.

.

#LifeElevated #Durian #ทุเรียน

.

อ้างอิง :

https://www.doctor.or.th/article/detail/7518

https://news.thaipbs.or.th/content/263418

https://twitter.com/pr_moph/status/988692887763275777

https://web.facebook.com/anamaidoh/posts/1670097699777296?_rdc=1&_rdr

Related Articles

Leave a Comment